วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

สาเหตุทำให้เกิดสังคมก้มหน้า

     สังคมก้มหน้าในปัจจุบัน ถูกนิยามว่าอาจเป็นสังคมที่ต่างคนต่างเล่นโทรศัพท์มือถือของตัวเอง จนไม่สนใจอะไรรอบข้าง

     คิดว่าสาเหตุ คือ เราเห็นว่าเครื่องมือเหล่านี้ทำให้เราสื่อสารกับคนอื่นได้อย่างง่ายขึ้น ทำให้เราได้รับข้อมูลอะไรบางอย่างได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น เราก็เลยใช้ แต่ปัญหา คือ ใช้แล้วเสพติดจนลืมการพูดคุยกับคนในชีวิตจริงไป สิ่งนี้คือปัญหา สาเหตุก็มาจากความสะดวกสบาย



แนวโน้มจะแย่ลงหรือจะดีขึ้น

     แย่ลงแน่ๆ มันจะเป็นสังคมก้มหน้าแบบนี้ต่อไปแล้วมีความเข้มข้นมากขึ้น คนก็จะก้มหนักขึ้นต่อไป

ควรจะแก้อย่างไร

     คือมันต้องแก้ที่สาเหตุ ต้นเหตุก็คือ เราสะดวกสบาย ได้รับอะไรที่มันรวดเร็วทันใจ เราพิมพ์ massage (ข้อความขนาดสั้น)  นิดนึง ก็ตอบกลับมาแล้ว  search (ค้นหา) อะไรนิดนึงก็ตอบกลับมาแล้ว  เราอยากฟังเพลงเราก็ฟังในสมาร์ทโฟน เราทำทุกอย่างในสมาร์ทโฟน คือ มันต้องแก้ที่ต้นเหตุที่ว่าเราต้องเห็นความสำคัญของการมีชีวิตที่ไม่ก้มหน้า ต้องเห็นความสำคัญตรงนั้นก่อน เห็นความสำคัญของการพูดคุยกับคน แบบเห็นหน้า มองหน้า หรือเห็นความสำคัญของการเดินไปไหนมาไหนโดยที่หน้าไม่ก้ม  ทีนี้ถามว่าเราจะเห็นความสำคัญได้อย่างไร  เราต้องเริ่มจากการปล่อยมือถือที่เราเล่นอยู่ลง แล้วลองปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นดูสิ คือเริ่มลดสิ่งเหล่านี้ เราอาจจะเห็นแง่มุมที่เราละเลยมันไป ต้องแก้ที่ตัวเอง ว่าง่ายๆ เถอะ

สิ่งที่ทำให้เกิดสังคมก้มหน้า จะมีข้อดีข้อเสียอย่างไรต่อเยาวชน

     ความสะดวกสบายที่เกิดขึ้น ความรวดเร็ว ถ้าเกิดประโยชน์ก็อาจจะทำให้โลกมันไร้พรมแดน ทำให้เรามีหูตากว้างไกลมากขึ้น แต่โทษของมัน คือ ทำให้เราละเลยการใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่มีมัน มำให้เราละเลยการพูดคุยกับคนปกติธรรมดาโดยที่ไม่ต้องใช้สมาร์ทโฟน

     ผลเสียจะมากกว่าผลดี เพราะว่าเราใช้มันจนกระทั่งเราไม่รู้ว่ามันมีผลดีอะไร นี่คือสิ่งที่น่ากลัว จนกลายเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ปุถุชนธรรมดา จนลืมไปแล้วว่าการที่เราจะมีสิ่งพวกนี้ เราต้องมีเงินที่จะซื้อมัน

สังคมก้มหน้ามีผลกระทบต่อชีวิตหรือไม่

     มันทำให้เราไม่สนิทกันเหมือนเมื่อก่อน กลายเป็นว่าเราห่างเหินกัน อาจจะพูดคุยกันปกติ เป็นเพื่อนกันปกติ  แต่บางครั้งมันทำให้เราอยากจะพูดคุยอะไรแบบเห็นหน้าค่าตา กลายเป็นว่าเค้าให้ค่ากับมือถือมากกว่า ทำให้เราห่างเหินกัน


ที่มา :http://tassinee.blogspot.com/ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น